VIEW CART
CATEGORY
Camera
Camera Accessories
Flash Drive
HandCraft งานหัตถกรรม
Lens
Memory Card
Postcard
souvenir ของชำร่วย
Spa
Tripod
BRAND
Aroma
Aroma Ceramic
Candle
Canon
Fabric
Grab Moments
Handicraft
Kitchen
Manfrotto
Nikon
Olympus
Sandisk
Soap
souvenir ของชำร่วย
CATEGORY
Camera
Camera Accessories
Flash Drive
HandCraft งานหัตถกรรม
Lens
Memory Card
Postcard
souvenir ของชำร่วย
Spa
Tripod
BRAND
Aroma
Aroma Ceramic
Candle
Canon
Fabric
Grab Moments
Handicraft
Kitchen
Manfrotto
Nikon
Olympus
Sandisk
Soap
souvenir ของชำร่วย



Product Brand : Nikon
Product Name : DSLR D4
Product Type : DSLR Camera : :
Product Description : พิกเซลใช้งานจริงมากถึง 16.2 ล้านพิกเซล และยังมอบคุณภาพของภาพที่เหนือระดับแม้อยู่ภายใต้สภาพแสงที่มีความแตกต่างมาก ด้วยเซ็นเซอร์ภาพที่สนับสนุนความไวแสงในระดับกว้างเป็นพิเศษตั้งแต่ ISO 50 ถึง ISO 204800
Price : 196000 Baht
Product Name : DSLR D4
Product Type : DSLR Camera : :
Product Description : พิกเซลใช้งานจริงมากถึง 16.2 ล้านพิกเซล และยังมอบคุณภาพของภาพที่เหนือระดับแม้อยู่ภายใต้สภาพแสงที่มีความแตกต่างมาก ด้วยเซ็นเซอร์ภาพที่สนับสนุนความไวแสงในระดับกว้างเป็นพิเศษตั้งแต่ ISO 50 ถึง ISO 204800
Price : 196000 Baht
- Max resolution : 4,928 x 3,280
- Low resolution : 3,600 x 2,024 or 2,048 x 1,640
- Image ratio w:h :0.126388888888889
- Effective pixels : 16.6 million
- Sensor photo detectors : 12.9 million
- Sensor size : 36.0 x 23.9 mm (Nikon FX)
- Pixel density : 1.4 MP/cm
- Sensor type : CMOS
- ISO rating : ISO 100 - 12800 in steps of 1/3, 1/2, or 1 EV, sensitivity control available
- Min shutter : 30 sec
- GPS: GP-1 GPS
- LCD Size : 3.2” 921k-dot
- Weight (inc. batteries) : 1340g (2 lb 3.3 oz), 5.7 x 4.8 x 3.2”
- Li-ion EN-EL18
จากการสรรค์สร้างประสิทธิภาพการทำงานเหนือระดับทั้งการถ่ายวิดีโอและภาพนิ่งไว้ในตัวเดียวกัน D4 คือกล้องรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมเซ็นเซอร์รูปแบบ FX ใหม่ความละเอียด 16.2 ล้านพิกเซล จึงนำเสนอความเร็ว ขนาด ความละเอียดและความไวแสงที่ยอดเยี่ยมกว่าที่เคยมีมา แม้จะมีการเพิ่มพิกเซลใช้งานจริงให้มากกว่ากล้องรุ่น D3S ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนหน้าถึง 33% แต่ D4 ยังสามารถส่งมอบและประมวลผลข้อมูลได้เร็วกว่ากล้องทุกรุ่นที่เคยมีมาของ Nikon ทำให้ช่างภาพสามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วถึง 11 ภาพต่อวินาทีในรูปแบบ FX จากการตรวจสอบคุณภาพของภาพที่ถ่ายด้วยกล้อง D4 พบว่า ภาพความละเอียด 16.2 ล้านพิกเซลสามารถแสดงรายละเอียดและความลึกของภาพได้อย่างน่าพิศวง ซึ่งรองรับความยืดหยุ่นในขั้นตอนหลังการผลิต ตั้งแต่งานพิมพ์นิตยสารไปจนถึงการเผยแพร่บนเว็บไซต์ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งคุณภาพของภาพที่สามารถใช้งานได้หลากหลายนี้เป็นความสำเร็จโดยตรงจากวิธีการออกแบบเซ็นเซอร์ที่มีความซับซ้อนของ Nikon งานออกแบบภายในเซ็นเซอร์ได้รับการประดิษฐ์คิดค้นอย่างละเอียดเพื่อสะสมปริมาณแสงให้มากที่สุด และประมวลผลภาพให้มีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ทั้งในสภาพแสงที่แตกต่างและยากต่อการเก็บภาพที่สุด ผลลัพธ์ของภาพที่คมชัดและเรียบเนียนจะยังคงถูกเก็บรักษาไว้ที่ความไวแสง (ISO) สูง เนื่องจากการออกแบบการลดสัญญาณรบกวนที่มีประสิทธิภาพและการแปลงสัญญาณอะนาลอกเป็นดิจิตอล (A/D) ขนาด 14 บิทที่รวมอยู่ในเซ็นเซอร์ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของ Nikon กล้อง D4 จะขยายความเป็นไปได้ของการถ่ายภาพนิ่งของคุณด้วยตัวเลือกพื้นที่ภาพสี่รูปแบบ ประกอบด้วย รูปแบบ FX (36.0 x 23.9 มม.), ตัดส่วนภาพ 5:4 (29.9 x 23.9 มม.), ตัดส่วนภาพ 1.2x (29.9 x 19.9 มม.) และรูปแบบ DX (23.4 x 15.5 มม.) นอกจากนี้ กล้องยังมีตัวเลือกพื้นที่ภาพอีกสามรูปแบบสำหรับวิดีโอแบบ Full HD ศักยภาพในการถ่ายทำภาพยนตร์จึงเพิ่มเป็นสามเท่า โดยตัวเลือกที่สร้างสรรค์เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากการจัดวางชิ้นเลนส์ NIKKOR FX และ DX ที่หลากหลาย ค่าความไวแสงมาตรฐาน ISO 100 ถึง 12800 และสามารถปรับได้ตั้งแต่ ISO 50 ถึง ISO 204800
กล้องดิจิตอล SLR รุ่นเรือธงของ Nikon ได้รับการยอมรับอย่างยาวนานจากมืออาชีพจำนวนมาก สำหรับประสิทธิภาพที่โดดเด่นเรื่องการตั้งค่าความไวแสงสูง และกล้อง D4 รุ่นใหม่ พร้อมความละเอียด 16.2 ล้านพิกเซลนี้มอบประสิทธิภาพการลดสัญญาณรบกวนที่ ISO 12800 และยังขยายช่วง EV เพิ่มได้อีกหนึ่งช่วง เมื่อเปรียบเทียบกับคุณสมบัติเดียวกันของ D3S ซึ่งมีค่าความไวแสงมาตรฐานที่ ISO 100 ซึ่งส่งผลให้สามารถใช้ความไวชัตเตอร์ต่ำในสภาพที่แดดจ้า นอกจากนี้ คุณสมบัติที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งก็คือ การสามารถปรับความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO 50 ถึง ISO 204800 ทำให้คุณสามารถใช้กล้อง D4 ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้อย่างมั่นใจ* ในแทบทุกสภาพแสง – แม้แต่ในที่ที่สายตามนุษย์ไม่สามารถจับรายละเอียดภาพได้ชัดเจน ช่างภาพจะสามารถทำงานได้ในสภาพแสงที่ยากแก่การมองเห็น ทั้งแดดกล้ายามเที่ยงวันและแสงรำไรยามรุ่งสาง และจับภาพในเงาเลือนรางของสถานที่แสงสลัวหรือป่าท่ามกลางแสงจันทร์เวลาเที่ยงคืน ในสถานการณ์เหล่านี้ ช่วงความไวแสง (ISO) ประสิทธิภาพสูงของกล้องจะช่วยให้ช่างภาพเลือกวิธีการถ่ายภาพวัตถุที่ต้องการได้อย่างหลากหลาย
*ช่วงความไวแสง (ISO) มาตรฐาน D-Movie ตั้งแต่ ISO 200 ถึง ISO 12800 พร้อมตัวเลือกความไวแสงสูงสุดถึง Hi 4
การใช้แสงดีที่สุด: เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ภาพลิขสิทธิ์เฉพาะของ Nikon
ความสมบูรณ์ของภาพถ่ายระดับสุดยอดนี้พร้อมด้วยช่วงความไวแสง (ISO) ที่กว้างขวาง เป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ภาพลิขสิทธิ์เฉพาะของ Nikon ช่วงเว้นระยะระหว่างพิกเซลอยู่ที่ 7.3 µm ขณะการใช้ไมโครเลนส์แบบไม่มีช่องว่าง และมีการใช้ฟังก์ชั่นการเคลือบสารกันแสงสะท้อนในส่วนต่างๆ – ส่งผลให้แสงโกสต์และแสงแฟลร์ลดลงในระดับต่ำสุด ด้วยการออกแบบที่ใส่ใจทุกรายละเอียดนี้ทำให้กล้อง D4 สามารถส่งผ่านแสงทั้งหมดสู่เซ็นเซอร์ได้โดยตรงและมีประสิทธิภาพ โดยแสงส่วนที่ดีจะถูกจัดเก็บด้วยประสิทธิภาพของควอนตัมเซ็นเซอร์แบบปรับปรุงใหม่ ช่วยรับประกันการแปลงสัญญาณแสงเป็นสัญญาณไฟฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยม และส่งผ่านไฟล์ดิจิตอลที่ค่าความไวแสงระหว่าง ISO 100 ถึง 12800 ด้วยช่วงไดนามิกที่กว้างและอัตราสวนสัญญาณส่งกับสัญญาณรบกวนที่ดีเยี่ยม ดังนั้น ข้อดีของเซ็นเซอร์ประสิทธิภาพสูงก็จะถูกยกระดับขึ้นอีกด้วยการผสมผสานกับระบบลดสัญญาณรบกวน โครงสร้างทางอิเล็กทรอนิกส์ภายในเซ็นเซอร์ถูกกำหนดไว้อย่างถี่ถ้วนเพื่อช่วยลดสัญญาณรบกวนให้เหลือน้อยที่สุด นอกจากนี้ ทั้งๆ ที่ทำงานด้วยความเร็วอันน่าตื่นตาที่ประมาณ 11 ภาพต่อวินาที แต่เซ็นเซอร์ภาพของกล้อง D4 ยังสิ้นเปลืองพลังงานน้อย เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย
ระบบลดฝุ่นแบบผสมผสานของ Nikon พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการทำความสะอาดเซ็นเซอร์ภาพ
ฝุ่นละอองที่มาเกาะติดเซ็นเซอร์ภาพจะกลายเป็นจุดที่ไม่พึงประสงค์บนภาพถ่ายของคุณ เพื่อป้องกันปัญหานี้ กล้อง D4 มีระบบลดฝุ่นแบบผสมผสานของ Nikon ที่รวมชุดการทำความสะอาดเซ็นเซอร์ภาพที่มีความถี่การสั่นพ้อง 4 ช่วง เพื่อสั่น Optical Low-Pass Filter และเขย่าฝุ่นละอองให้หลุดจากเซ็นเซอร์ โดยสามารถกำหนดให้ฟังก์ชั่นนี้ทำงานโดยอัตโนมัติขณะเปิดหรือปิดการทำงานของกล้อง หรือสามารถปรับเองได้ EXPEED 3: การประมวลผลภาพอัจฉริยะขนาด 16 บิทอย่างรวดเร็วและทรงประสิทธิภาพ [ใหม่]
EXPEED 3 คือเครื่องบ่งชี้ล่าสุดของความเชี่ยวชาญด้านภาพในทุกรายละเอียดของ Nikon ระบบที่ซับซ้อนนี้ได้รับการออกแบบเพื่อใช้วิเคราะห์และประมวลผลภาพที่ความเร็วสูงด้วยความแม่นยำสูงสุด กลไกประมวลผลภาพ EXPEED 3 ซึ่งได้รับการออกแบบให้เหมาะสำหรับกล้องดิจิตอล SLR โดยเฉพาะ นำเสนอคุณภาพในระดับที่น่าเชื่อถือ ความอิ่มตัวของสีพอเหมาะ ความลึกและความนุ่มนวลของภาพมีความเป็นธรรมชาติ และมีชั้นโทนสีที่ดูเป็นเนื้อเดียวกันตั้งแต่สีดำสนิทจนถึงสีขาวโพลน ในสภาพแสงสลัวที่การตั้งค่า ISO สูง การลดสัญญาณรบกวนอัจฉริยะของกล้องจะลดสัญญาณรบกวนโดยไม่ลดคุณภาพด้านความคมชัดของภาพ การประมวลผลภาพความเร็วสูงขนาด 16 บิทส่งมอบการไล่ระดับสีที่เรียบเนียนด้วยโทนสีและรายละเอียดที่หลากหลายเพื่อความสมบูรณ์ของภาพสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย แม้แต่ไฟล์ภาพสกุล JPEG ที่ออกจากกล้องโดยตรงก็ยังรักษาความคมชัดที่จำเป็นเมื่อต้องใช้ภาพสำหรับการเผยแพร่ทางนิตยสาร หนังสือพิมพ์หรือเว็บไซต์ นอกจากนี้ ระบบ EXPEED 3 ยังเหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอเช่นกัน โดยการแสดงผลภาพยนตร์จะมีการลด moiré (สีเหลื่อม) ความผิดเพี้ยนของสี และ "รอยหยักฟันปลา" ไว้ให้ด้วย นอกจากนี้ เทคโนโลยีการลดสัญญาณรบกวนที่ได้รับการออกแบบสำหรับวิดีโอโดยเฉพาะจะช่วยเก็บรักษาความคมชัดและความใสของลายเส้นในภาพ – แม้ในสภาพที่แสงน้อย ระบบ EXPEED 3 ที่ทรงประสิทธิภาพมีการทำงานที่รวดเร็ว แม่นยำ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยยืดอายุความสามารถของกล้องในการรับมือกับการใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ
ความคมชัดในทุกส่วนของภาพ: ระบบลดความคลาดเคลื่อนสีตามแนวตั้งฉาก
เซ็นเซอร์เมกะพิกเซลความละเอียดสูงสามารถใช้ทดสอบเลนส์ได้จริง แต่การผสมผสานของเลนส์ NIKKOR ที่ยอดเยี่ยมและกระบวนการวัดประมวลผลภาพอัจฉริยะของ Nikon จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความคลาดเคลื่อนสีตามแนวตั้งฉาก หรือปัญหาความคลาดสี เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อกับคุณ วิธีการแก้ไขภาพของ Nikon ไม่เหมือนวิธีการอื่นๆ ที่เพียงกำจัดความคลาดเคลื่อนสีอย่างเรียบง่าย แต่ยังชดเชยความต่างของสีในดัชนีการวิเคราะห์สำหรับแต่ละสี ทำให้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการให้ภาพคมชัดน่าตื่นตาตลอดทั่วทั้งภาพ นอกจากนั้น เนื่องจากการดำเนินการแก้ไขเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับลักษณะการใช้เลนส์ NIKKOR คุณสมบัตินี้จึงช่วยทำให้เกิดภาพที่คมชัดที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ระดับความแม่นยำใหม่ในการทำงานอัตโนมัติด้วยเซ็นเซอร์ RGB ความละเอียด 91,000 พิกเซล [ใหม่]
ด้วยระบบบันทึกภาพใหม่ด้วยการประมวลผลขั้นสูงแบบดั้งเดิมของ Nikon กล้อง D4 ประสบความสำเร็จในการสร้างมาตรฐานใหม่ของผลลัพธ์จากการโฟกัสอัตโนมัติที่แม่นยำ, ค่าแสงอัตโนมัติ, แฟลช i-TTL, เทคโนโลยี Active D-Lighting และไวต์บาลานซ์อัตโนมัติ ส่วนสำคัญที่สุดของระบบ คือเซ็นเซอร์ RGB ที่แม่นยำซึ่งอ่านฉากแต่ละฉากอย่างถี่ถ้วนด้วยความละเอียด 91,000 พิกเซล ข้อมูลแต่ละพิกเซลที่สะสมไว้จะถูกใช้เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลสีและระดับความสว่างของฉากด้วยความแม่นยำในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ ระบบยังสามารถจดจำใบหน้าคนเมื่อถ่ายภาพด้วยช่องมองภาพแบบออพติคัล จากนั้น ข้อมูลพิกเซลที่ถูกวิเคราะห์อย่างละเอียดนี้จะกระตุ้นการทำงานของส่วนควบคุมที่หลากหลายภายในกล้องโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้การแสดงภาพมีความเป็นธรรมชาติและน่าดึงดูดยิ่งขึ้น และระบบบันทึกภาพใหม่ด้วยการประมวลผลขั้นสูงช่วยให้ความแม่นยำระดับสูงสุดสำหรับส่วนควบคุมอัตโนมัติต่างๆ โดยการควบคุมข้อมูลฉากจำนวนมากได้อย่างไร้ที่ติ – แม้ในความเร็วสูงสุด 10 ภาพต่อวินาที ระบบบันทึกภาพใหม่ด้วยการประมวลผลขั้นสูง
การตรวจจับวัตถุที่แม่นยำ: การใช้งานสำหรับออโตโฟกัส
หลังจากเปิดตัวในกล้องตระกูล D3 ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติและการติดตามระยะโฟกัส 3 มิติของ Nikon คือโหมดพื้นที่ออโตโฟกัสที่ใช้ข้อมูลสีและความสว่างจากวัตถุเพื่อกำหนดโฟกัสที่เหมาะสม กล้อง D4 มาพร้อมกับอัลกอริธึมการจดจำวัตถุใหม่ล่าสุดสำหรับโหมดพื้นที่ออโตโฟกัสทั้งสองโหมด ซึ่งจะส่งผลดีต่อการถ่ายภาพนิ่งคุณภาพสูง ในโหมดออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ กล้องสามารถจดจำและตั้งจุดโฟกัสที่ใบหน้าคนได้อย่างแม่นยำ – ซึ่งเป็นประโยชน์เมื่อใบหน้ามีความโดดเด่นมากกว่าวัตถุอื่นและผู้ใช้ไม่มีเวลาในการกำหนดจุดโฟกัสด้วยตนเอง โดยระบบจะโฟกัสที่ตัววัตถุเมื่อใบหน้าอยู่นอกพื้นที่ออโตโฟกัส สำหรับโหมดการติดตามระยะโฟกัส 3 มิติ ข้อมูลที่มีความแม่นยำสูงของเซ็นเซอร์ RGB ความละเอียด 91,000 พิกเซลจะผสมผสานกับอัลกอริธึมออโตโฟกัส ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถจดจำรูปแบบโดยละเอียดของวัตถุ เพื่อติดตามได้อย่างแม่นยำต่อไป ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพแบบสี 3 มิติ III: การใช้งานสำหรับการปรับค่าแสงอัตโนมัติ
ด้วยเซ็นเซอร์ RGB ความละเอียด 91,000 พิกเซล กล้อง D4 สามารถจัดการข้อมูลฉากได้อย่างละเอียด – รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับใบหน้าคนที่มีความโดดเด่นในช่องมองภาพ ข้อมูลนี้ช่วยให้ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพแบบสี 3 มิติ III ของ Nikon นำเสนอค่าแสงอัตโนมัติที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีใบหน้าคนปรากฏอยู่ในภาพด้วย ในสภาพที่จำเป็นต้องมีการชดเชยแสง เช่น กรณีที่ใบหน้าคนมืดแต่พื้นหลังสว่าง หรือใบหน้าคนสว่างแต่พื้นหลังมืด ขณะนี้ กล้อง D4 สามารถกำหนดค่าแสงที่ให้ความสมดุลกับพื้นหลังโดยการพิจารณาขนาดของใบหน้าที่สัมพันธ์กับกรอบภาพและความสว่างของภาพ ทั้งนี้ การตรวจวัดที่แม่นยำจะสามารถทำได้ในฉากที่มีความสว่างต่ำเท่ากับ -1 EV ด้วยระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพแบบสี 3 มิติ III และระบบวัดแสงที่เน้นกลางภาพ การใช้งานสำหรับแฟลชลบเงาเพื่อความสมดุลแบบ i-TTL และ Active D-Lighting
ด้วยการจับคู่แฟลชลบเงาเพื่อความสมดุลแบบ i-TTL แบบเพิ่มสมรรถนะกับฐานเสียบแฟลชหรือแฟลชเสริมภายนอกของ Nikon แบบมีสาย กล้องจะสามารถให้ความสว่างของใบหน้าคนโดยสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำและโดดเด่น ยิ่งไปกว่านั้น ระบบตรวจจับใบหน้าที่จับคู่กับ Active D-Lighting จะให้ผลลัพธ์ภาพที่คงสภาพไฮไลท์และเงามืดในลักษณะคอนทราสต์สูง ช่วยให้ใบหน้าเหมือนกับในความเป็นจริง ไม่ว่าจะอยู่กลางแดดหรือในร่ม ไวต์บาลานซ์อัตโนมัติ
หลังจากความพยายามในการวิจัยเกี่ยวกับแสงของสภาพแวดล้อมมานานหลายปี ขณะนี้ เทคโนโลยีไวต์บาลานซ์อัตโนมัติแบบเฉพาะของ Nikon ในกล้อง D4 สามารถระบุและชดเชยช่วงแสงที่หลากหลายของแหล่งกำเนิดแสงธรรมชาติและแหล่งกำเนิดแสงประดิษฐ์ กล้องสามารถแสดงผลภาพได้ถูกต้องตามความเป็นจริงโดยใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ภาพและเซ็นเซอร์ RGB ความละเอียด 91,000 พิกเซล ด้วยความแม่นยำในระดับสูงสุด หรือสามารถรวมความอบอุ่นของแสงจากไฟหลอดที่ล้อมรอบไว้ด้วย หากจำเป็น
การสนับสนุนการถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ D-Movie
ระบบบันทึกภาพใหม่ด้วยการประมวลผลขั้นสูงของกล้อง D4 ไม่เพียงเพิ่มสมรรถนะของการถ่ายภาพนิ่งเท่านั้น แต่ยังมีเครื่องมือควบคุมจำนวนมากสำหรับการถ่ายภาพยนตร์ โดยระบบจะระบุแหล่งกำเนิดแสงและใบหน้าบุคคลได้อย่างยอดเยี่ยม โดยใช้ประโยชน์จากความละเอียดสูงของเซ็นเซอร์ภาพเพื่อนำเสนอไวต์บาลานซ์อัตโนมัติที่แม่นยำ และการควบคุมค่าแสงขณะถ่ายภาพยนตร์ และปรับปรุงความแม่นยำของออโตโฟกัสติดตามวัตถุอีกด้วย
- Low resolution : 3,600 x 2,024 or 2,048 x 1,640
- Image ratio w:h :0.126388888888889
- Effective pixels : 16.6 million
- Sensor photo detectors : 12.9 million
- Sensor size : 36.0 x 23.9 mm (Nikon FX)
- Pixel density : 1.4 MP/cm
- Sensor type : CMOS
- ISO rating : ISO 100 - 12800 in steps of 1/3, 1/2, or 1 EV, sensitivity control available
- Min shutter : 30 sec
- GPS: GP-1 GPS
- LCD Size : 3.2” 921k-dot
- Weight (inc. batteries) : 1340g (2 lb 3.3 oz), 5.7 x 4.8 x 3.2”
- Li-ion EN-EL18
จากการสรรค์สร้างประสิทธิภาพการทำงานเหนือระดับทั้งการถ่ายวิดีโอและภาพนิ่งไว้ในตัวเดียวกัน D4 คือกล้องรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมเซ็นเซอร์รูปแบบ FX ใหม่ความละเอียด 16.2 ล้านพิกเซล จึงนำเสนอความเร็ว ขนาด ความละเอียดและความไวแสงที่ยอดเยี่ยมกว่าที่เคยมีมา แม้จะมีการเพิ่มพิกเซลใช้งานจริงให้มากกว่ากล้องรุ่น D3S ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนหน้าถึง 33% แต่ D4 ยังสามารถส่งมอบและประมวลผลข้อมูลได้เร็วกว่ากล้องทุกรุ่นที่เคยมีมาของ Nikon ทำให้ช่างภาพสามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วถึง 11 ภาพต่อวินาทีในรูปแบบ FX จากการตรวจสอบคุณภาพของภาพที่ถ่ายด้วยกล้อง D4 พบว่า ภาพความละเอียด 16.2 ล้านพิกเซลสามารถแสดงรายละเอียดและความลึกของภาพได้อย่างน่าพิศวง ซึ่งรองรับความยืดหยุ่นในขั้นตอนหลังการผลิต ตั้งแต่งานพิมพ์นิตยสารไปจนถึงการเผยแพร่บนเว็บไซต์ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งคุณภาพของภาพที่สามารถใช้งานได้หลากหลายนี้เป็นความสำเร็จโดยตรงจากวิธีการออกแบบเซ็นเซอร์ที่มีความซับซ้อนของ Nikon งานออกแบบภายในเซ็นเซอร์ได้รับการประดิษฐ์คิดค้นอย่างละเอียดเพื่อสะสมปริมาณแสงให้มากที่สุด และประมวลผลภาพให้มีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ทั้งในสภาพแสงที่แตกต่างและยากต่อการเก็บภาพที่สุด ผลลัพธ์ของภาพที่คมชัดและเรียบเนียนจะยังคงถูกเก็บรักษาไว้ที่ความไวแสง (ISO) สูง เนื่องจากการออกแบบการลดสัญญาณรบกวนที่มีประสิทธิภาพและการแปลงสัญญาณอะนาลอกเป็นดิจิตอล (A/D) ขนาด 14 บิทที่รวมอยู่ในเซ็นเซอร์ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของ Nikon กล้อง D4 จะขยายความเป็นไปได้ของการถ่ายภาพนิ่งของคุณด้วยตัวเลือกพื้นที่ภาพสี่รูปแบบ ประกอบด้วย รูปแบบ FX (36.0 x 23.9 มม.), ตัดส่วนภาพ 5:4 (29.9 x 23.9 มม.), ตัดส่วนภาพ 1.2x (29.9 x 19.9 มม.) และรูปแบบ DX (23.4 x 15.5 มม.) นอกจากนี้ กล้องยังมีตัวเลือกพื้นที่ภาพอีกสามรูปแบบสำหรับวิดีโอแบบ Full HD ศักยภาพในการถ่ายทำภาพยนตร์จึงเพิ่มเป็นสามเท่า โดยตัวเลือกที่สร้างสรรค์เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากการจัดวางชิ้นเลนส์ NIKKOR FX และ DX ที่หลากหลาย ค่าความไวแสงมาตรฐาน ISO 100 ถึง 12800 และสามารถปรับได้ตั้งแต่ ISO 50 ถึง ISO 204800
กล้องดิจิตอล SLR รุ่นเรือธงของ Nikon ได้รับการยอมรับอย่างยาวนานจากมืออาชีพจำนวนมาก สำหรับประสิทธิภาพที่โดดเด่นเรื่องการตั้งค่าความไวแสงสูง และกล้อง D4 รุ่นใหม่ พร้อมความละเอียด 16.2 ล้านพิกเซลนี้มอบประสิทธิภาพการลดสัญญาณรบกวนที่ ISO 12800 และยังขยายช่วง EV เพิ่มได้อีกหนึ่งช่วง เมื่อเปรียบเทียบกับคุณสมบัติเดียวกันของ D3S ซึ่งมีค่าความไวแสงมาตรฐานที่ ISO 100 ซึ่งส่งผลให้สามารถใช้ความไวชัตเตอร์ต่ำในสภาพที่แดดจ้า นอกจากนี้ คุณสมบัติที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งก็คือ การสามารถปรับความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO 50 ถึง ISO 204800 ทำให้คุณสามารถใช้กล้อง D4 ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้อย่างมั่นใจ* ในแทบทุกสภาพแสง – แม้แต่ในที่ที่สายตามนุษย์ไม่สามารถจับรายละเอียดภาพได้ชัดเจน ช่างภาพจะสามารถทำงานได้ในสภาพแสงที่ยากแก่การมองเห็น ทั้งแดดกล้ายามเที่ยงวันและแสงรำไรยามรุ่งสาง และจับภาพในเงาเลือนรางของสถานที่แสงสลัวหรือป่าท่ามกลางแสงจันทร์เวลาเที่ยงคืน ในสถานการณ์เหล่านี้ ช่วงความไวแสง (ISO) ประสิทธิภาพสูงของกล้องจะช่วยให้ช่างภาพเลือกวิธีการถ่ายภาพวัตถุที่ต้องการได้อย่างหลากหลาย
*ช่วงความไวแสง (ISO) มาตรฐาน D-Movie ตั้งแต่ ISO 200 ถึง ISO 12800 พร้อมตัวเลือกความไวแสงสูงสุดถึง Hi 4
การใช้แสงดีที่สุด: เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ภาพลิขสิทธิ์เฉพาะของ Nikon
ความสมบูรณ์ของภาพถ่ายระดับสุดยอดนี้พร้อมด้วยช่วงความไวแสง (ISO) ที่กว้างขวาง เป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ภาพลิขสิทธิ์เฉพาะของ Nikon ช่วงเว้นระยะระหว่างพิกเซลอยู่ที่ 7.3 µm ขณะการใช้ไมโครเลนส์แบบไม่มีช่องว่าง และมีการใช้ฟังก์ชั่นการเคลือบสารกันแสงสะท้อนในส่วนต่างๆ – ส่งผลให้แสงโกสต์และแสงแฟลร์ลดลงในระดับต่ำสุด ด้วยการออกแบบที่ใส่ใจทุกรายละเอียดนี้ทำให้กล้อง D4 สามารถส่งผ่านแสงทั้งหมดสู่เซ็นเซอร์ได้โดยตรงและมีประสิทธิภาพ โดยแสงส่วนที่ดีจะถูกจัดเก็บด้วยประสิทธิภาพของควอนตัมเซ็นเซอร์แบบปรับปรุงใหม่ ช่วยรับประกันการแปลงสัญญาณแสงเป็นสัญญาณไฟฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยม และส่งผ่านไฟล์ดิจิตอลที่ค่าความไวแสงระหว่าง ISO 100 ถึง 12800 ด้วยช่วงไดนามิกที่กว้างและอัตราสวนสัญญาณส่งกับสัญญาณรบกวนที่ดีเยี่ยม ดังนั้น ข้อดีของเซ็นเซอร์ประสิทธิภาพสูงก็จะถูกยกระดับขึ้นอีกด้วยการผสมผสานกับระบบลดสัญญาณรบกวน โครงสร้างทางอิเล็กทรอนิกส์ภายในเซ็นเซอร์ถูกกำหนดไว้อย่างถี่ถ้วนเพื่อช่วยลดสัญญาณรบกวนให้เหลือน้อยที่สุด นอกจากนี้ ทั้งๆ ที่ทำงานด้วยความเร็วอันน่าตื่นตาที่ประมาณ 11 ภาพต่อวินาที แต่เซ็นเซอร์ภาพของกล้อง D4 ยังสิ้นเปลืองพลังงานน้อย เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย
ระบบลดฝุ่นแบบผสมผสานของ Nikon พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการทำความสะอาดเซ็นเซอร์ภาพ
ฝุ่นละอองที่มาเกาะติดเซ็นเซอร์ภาพจะกลายเป็นจุดที่ไม่พึงประสงค์บนภาพถ่ายของคุณ เพื่อป้องกันปัญหานี้ กล้อง D4 มีระบบลดฝุ่นแบบผสมผสานของ Nikon ที่รวมชุดการทำความสะอาดเซ็นเซอร์ภาพที่มีความถี่การสั่นพ้อง 4 ช่วง เพื่อสั่น Optical Low-Pass Filter และเขย่าฝุ่นละอองให้หลุดจากเซ็นเซอร์ โดยสามารถกำหนดให้ฟังก์ชั่นนี้ทำงานโดยอัตโนมัติขณะเปิดหรือปิดการทำงานของกล้อง หรือสามารถปรับเองได้ EXPEED 3: การประมวลผลภาพอัจฉริยะขนาด 16 บิทอย่างรวดเร็วและทรงประสิทธิภาพ [ใหม่]
EXPEED 3 คือเครื่องบ่งชี้ล่าสุดของความเชี่ยวชาญด้านภาพในทุกรายละเอียดของ Nikon ระบบที่ซับซ้อนนี้ได้รับการออกแบบเพื่อใช้วิเคราะห์และประมวลผลภาพที่ความเร็วสูงด้วยความแม่นยำสูงสุด กลไกประมวลผลภาพ EXPEED 3 ซึ่งได้รับการออกแบบให้เหมาะสำหรับกล้องดิจิตอล SLR โดยเฉพาะ นำเสนอคุณภาพในระดับที่น่าเชื่อถือ ความอิ่มตัวของสีพอเหมาะ ความลึกและความนุ่มนวลของภาพมีความเป็นธรรมชาติ และมีชั้นโทนสีที่ดูเป็นเนื้อเดียวกันตั้งแต่สีดำสนิทจนถึงสีขาวโพลน ในสภาพแสงสลัวที่การตั้งค่า ISO สูง การลดสัญญาณรบกวนอัจฉริยะของกล้องจะลดสัญญาณรบกวนโดยไม่ลดคุณภาพด้านความคมชัดของภาพ การประมวลผลภาพความเร็วสูงขนาด 16 บิทส่งมอบการไล่ระดับสีที่เรียบเนียนด้วยโทนสีและรายละเอียดที่หลากหลายเพื่อความสมบูรณ์ของภาพสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย แม้แต่ไฟล์ภาพสกุล JPEG ที่ออกจากกล้องโดยตรงก็ยังรักษาความคมชัดที่จำเป็นเมื่อต้องใช้ภาพสำหรับการเผยแพร่ทางนิตยสาร หนังสือพิมพ์หรือเว็บไซต์ นอกจากนี้ ระบบ EXPEED 3 ยังเหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอเช่นกัน โดยการแสดงผลภาพยนตร์จะมีการลด moiré (สีเหลื่อม) ความผิดเพี้ยนของสี และ "รอยหยักฟันปลา" ไว้ให้ด้วย นอกจากนี้ เทคโนโลยีการลดสัญญาณรบกวนที่ได้รับการออกแบบสำหรับวิดีโอโดยเฉพาะจะช่วยเก็บรักษาความคมชัดและความใสของลายเส้นในภาพ – แม้ในสภาพที่แสงน้อย ระบบ EXPEED 3 ที่ทรงประสิทธิภาพมีการทำงานที่รวดเร็ว แม่นยำ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยยืดอายุความสามารถของกล้องในการรับมือกับการใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ
ความคมชัดในทุกส่วนของภาพ: ระบบลดความคลาดเคลื่อนสีตามแนวตั้งฉาก
เซ็นเซอร์เมกะพิกเซลความละเอียดสูงสามารถใช้ทดสอบเลนส์ได้จริง แต่การผสมผสานของเลนส์ NIKKOR ที่ยอดเยี่ยมและกระบวนการวัดประมวลผลภาพอัจฉริยะของ Nikon จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความคลาดเคลื่อนสีตามแนวตั้งฉาก หรือปัญหาความคลาดสี เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อกับคุณ วิธีการแก้ไขภาพของ Nikon ไม่เหมือนวิธีการอื่นๆ ที่เพียงกำจัดความคลาดเคลื่อนสีอย่างเรียบง่าย แต่ยังชดเชยความต่างของสีในดัชนีการวิเคราะห์สำหรับแต่ละสี ทำให้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการให้ภาพคมชัดน่าตื่นตาตลอดทั่วทั้งภาพ นอกจากนั้น เนื่องจากการดำเนินการแก้ไขเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับลักษณะการใช้เลนส์ NIKKOR คุณสมบัตินี้จึงช่วยทำให้เกิดภาพที่คมชัดที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ระดับความแม่นยำใหม่ในการทำงานอัตโนมัติด้วยเซ็นเซอร์ RGB ความละเอียด 91,000 พิกเซล [ใหม่]
ด้วยระบบบันทึกภาพใหม่ด้วยการประมวลผลขั้นสูงแบบดั้งเดิมของ Nikon กล้อง D4 ประสบความสำเร็จในการสร้างมาตรฐานใหม่ของผลลัพธ์จากการโฟกัสอัตโนมัติที่แม่นยำ, ค่าแสงอัตโนมัติ, แฟลช i-TTL, เทคโนโลยี Active D-Lighting และไวต์บาลานซ์อัตโนมัติ ส่วนสำคัญที่สุดของระบบ คือเซ็นเซอร์ RGB ที่แม่นยำซึ่งอ่านฉากแต่ละฉากอย่างถี่ถ้วนด้วยความละเอียด 91,000 พิกเซล ข้อมูลแต่ละพิกเซลที่สะสมไว้จะถูกใช้เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลสีและระดับความสว่างของฉากด้วยความแม่นยำในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ ระบบยังสามารถจดจำใบหน้าคนเมื่อถ่ายภาพด้วยช่องมองภาพแบบออพติคัล จากนั้น ข้อมูลพิกเซลที่ถูกวิเคราะห์อย่างละเอียดนี้จะกระตุ้นการทำงานของส่วนควบคุมที่หลากหลายภายในกล้องโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้การแสดงภาพมีความเป็นธรรมชาติและน่าดึงดูดยิ่งขึ้น และระบบบันทึกภาพใหม่ด้วยการประมวลผลขั้นสูงช่วยให้ความแม่นยำระดับสูงสุดสำหรับส่วนควบคุมอัตโนมัติต่างๆ โดยการควบคุมข้อมูลฉากจำนวนมากได้อย่างไร้ที่ติ – แม้ในความเร็วสูงสุด 10 ภาพต่อวินาที ระบบบันทึกภาพใหม่ด้วยการประมวลผลขั้นสูง
การตรวจจับวัตถุที่แม่นยำ: การใช้งานสำหรับออโตโฟกัส
หลังจากเปิดตัวในกล้องตระกูล D3 ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติและการติดตามระยะโฟกัส 3 มิติของ Nikon คือโหมดพื้นที่ออโตโฟกัสที่ใช้ข้อมูลสีและความสว่างจากวัตถุเพื่อกำหนดโฟกัสที่เหมาะสม กล้อง D4 มาพร้อมกับอัลกอริธึมการจดจำวัตถุใหม่ล่าสุดสำหรับโหมดพื้นที่ออโตโฟกัสทั้งสองโหมด ซึ่งจะส่งผลดีต่อการถ่ายภาพนิ่งคุณภาพสูง ในโหมดออโตโฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ กล้องสามารถจดจำและตั้งจุดโฟกัสที่ใบหน้าคนได้อย่างแม่นยำ – ซึ่งเป็นประโยชน์เมื่อใบหน้ามีความโดดเด่นมากกว่าวัตถุอื่นและผู้ใช้ไม่มีเวลาในการกำหนดจุดโฟกัสด้วยตนเอง โดยระบบจะโฟกัสที่ตัววัตถุเมื่อใบหน้าอยู่นอกพื้นที่ออโตโฟกัส สำหรับโหมดการติดตามระยะโฟกัส 3 มิติ ข้อมูลที่มีความแม่นยำสูงของเซ็นเซอร์ RGB ความละเอียด 91,000 พิกเซลจะผสมผสานกับอัลกอริธึมออโตโฟกัส ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถจดจำรูปแบบโดยละเอียดของวัตถุ เพื่อติดตามได้อย่างแม่นยำต่อไป ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพแบบสี 3 มิติ III: การใช้งานสำหรับการปรับค่าแสงอัตโนมัติ
ด้วยเซ็นเซอร์ RGB ความละเอียด 91,000 พิกเซล กล้อง D4 สามารถจัดการข้อมูลฉากได้อย่างละเอียด – รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับใบหน้าคนที่มีความโดดเด่นในช่องมองภาพ ข้อมูลนี้ช่วยให้ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพแบบสี 3 มิติ III ของ Nikon นำเสนอค่าแสงอัตโนมัติที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีใบหน้าคนปรากฏอยู่ในภาพด้วย ในสภาพที่จำเป็นต้องมีการชดเชยแสง เช่น กรณีที่ใบหน้าคนมืดแต่พื้นหลังสว่าง หรือใบหน้าคนสว่างแต่พื้นหลังมืด ขณะนี้ กล้อง D4 สามารถกำหนดค่าแสงที่ให้ความสมดุลกับพื้นหลังโดยการพิจารณาขนาดของใบหน้าที่สัมพันธ์กับกรอบภาพและความสว่างของภาพ ทั้งนี้ การตรวจวัดที่แม่นยำจะสามารถทำได้ในฉากที่มีความสว่างต่ำเท่ากับ -1 EV ด้วยระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพแบบสี 3 มิติ III และระบบวัดแสงที่เน้นกลางภาพ การใช้งานสำหรับแฟลชลบเงาเพื่อความสมดุลแบบ i-TTL และ Active D-Lighting
ด้วยการจับคู่แฟลชลบเงาเพื่อความสมดุลแบบ i-TTL แบบเพิ่มสมรรถนะกับฐานเสียบแฟลชหรือแฟลชเสริมภายนอกของ Nikon แบบมีสาย กล้องจะสามารถให้ความสว่างของใบหน้าคนโดยสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำและโดดเด่น ยิ่งไปกว่านั้น ระบบตรวจจับใบหน้าที่จับคู่กับ Active D-Lighting จะให้ผลลัพธ์ภาพที่คงสภาพไฮไลท์และเงามืดในลักษณะคอนทราสต์สูง ช่วยให้ใบหน้าเหมือนกับในความเป็นจริง ไม่ว่าจะอยู่กลางแดดหรือในร่ม ไวต์บาลานซ์อัตโนมัติ
หลังจากความพยายามในการวิจัยเกี่ยวกับแสงของสภาพแวดล้อมมานานหลายปี ขณะนี้ เทคโนโลยีไวต์บาลานซ์อัตโนมัติแบบเฉพาะของ Nikon ในกล้อง D4 สามารถระบุและชดเชยช่วงแสงที่หลากหลายของแหล่งกำเนิดแสงธรรมชาติและแหล่งกำเนิดแสงประดิษฐ์ กล้องสามารถแสดงผลภาพได้ถูกต้องตามความเป็นจริงโดยใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ภาพและเซ็นเซอร์ RGB ความละเอียด 91,000 พิกเซล ด้วยความแม่นยำในระดับสูงสุด หรือสามารถรวมความอบอุ่นของแสงจากไฟหลอดที่ล้อมรอบไว้ด้วย หากจำเป็น
การสนับสนุนการถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ D-Movie
ระบบบันทึกภาพใหม่ด้วยการประมวลผลขั้นสูงของกล้อง D4 ไม่เพียงเพิ่มสมรรถนะของการถ่ายภาพนิ่งเท่านั้น แต่ยังมีเครื่องมือควบคุมจำนวนมากสำหรับการถ่ายภาพยนตร์ โดยระบบจะระบุแหล่งกำเนิดแสงและใบหน้าบุคคลได้อย่างยอดเยี่ยม โดยใช้ประโยชน์จากความละเอียดสูงของเซ็นเซอร์ภาพเพื่อนำเสนอไวต์บาลานซ์อัตโนมัติที่แม่นยำ และการควบคุมค่าแสงขณะถ่ายภาพยนตร์ และปรับปรุงความแม่นยำของออโตโฟกัสติดตามวัตถุอีกด้วย